จีที200"ตาทิพย์"จับระเบิด"ตัวช่วย"สรรพาวุธ ทบ.
Posted by นักข่าวสายทหาร , ผู้อ่าน : 957 , 03:19:34 น.
หมวด : การเมือง
พิมพ์หน้านี้
จีที200"ตาทิพย์"จับระเบิด"ตัวช่วย"สรรพาวุธ ทบ.
"จี ที 200" ชุดตรวจสอบระเบิด ค้นหาได้ทั้งอากาศ-บนดิน-ใต้ดิน-ใต้น้ำ ตรวจได้ทั้งระเบิด-อาวุธ-กระสุน-ยาเสพติด เผย "อนุพงษ์" เห็นความสำคัญ เตรียมสั่งซื้อเพิ่ม มั่นใจช่วยให้มีความปลอยดภันมากขึ้น ยุทธวิธีที่กลุ่มก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนใต้นิยมใช้อยู่ในเวลานี้ล้วน เกี่ยวข้องกับ"วัตถุระเบิด" ทั้ง สิ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์แล้วลอบวางระเบิดไว้เพื่อดักรอเจ้า หน้าที่ หรือขุดหลุมระเบิดไว้ริมถนนแล้วซุ่มยิง หรือกระทั่งใช้คาร์บอมบ์ คล้ายในต่างประเทศ
แม้แต่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดเองก็ ยอมรับว่าการทำงานมีความเสี่ยงขึ้นทุกวัน เพราะปัจจุบันคนร้ายนิยมประกอบระเบิดไว้ถึง 3 ระบบเพื่อเพิ่มความเสี่ยงแก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งหากประมาทเพียง เสี้ยววินาทีย่อมไม่มีโอกาสแก้ตัวตลอดกาล ดังนั้นการทำงาน ของเจ้าหน้าที่ ย่อมมิอาจใช้เพียงความรู้และประสบการณ์เท่านั้น แต่จะต้องพึ่งพาอาศัย "เครื่องตรวจวัตถุระเบิด" ที่มีความแม่นยำในการตรวจสอบสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานเพราะขึ้น ชื่อว่าชีวิตคนย่อมมีความสำคัญกว่าวัตถุเป็นไหนๆ ปัจจุบันกองทัพบก(ทบ.) มีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดที่มีประสิทธิภาพสูง คือ "จีที 200" ซึ่ง เป็นเครื่องตรวจหาสารวัตถุระเบิดที่ผลิตจากประเทศอังกฤษ มีความสามารถในการ ค้นหาสารวัตถุระเบิดได้อย่างดีเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆของโลก (Now the Army has the best bomb detection equipment—the GT 200—which detects explosives (and produced in the UK). It is the most capable bomb detector in the world.)
โครงการนี้ได้เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปี2547 และมีการสั่งซื้อเพิ่มเติมในสมัยของพล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) (The program began in 2004 and added orders while Gen. Sonthi Boonyarataglin was commander-in-chief)
โดย หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดี จากกรมสรรพาวุธทหารบก ได้นำเครื่องจี ที 200 มาใช้ปฏิบัติภารกิจร่วมกับทหารจากกองทัพภาคที่ 1, 2, 3 และ4 ซึ่งจะ หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันลงไปปฏิบัติภารกิจในสามจังหวัดชายแดนใต้มา นานกว่า4 ปี ส่วน คุณสมบัติของเครื่องจีที200 คือสามารถตรวจหาสารวัตถุระเบิด อาวุธสงคราม และ ยาเสพติด โดยใช้หลักการของสนามแม่เหล็กเชื่อมโยงกับสารไดอาร์ พาราและ สสาร ที่ต้องการจะตรวจจับ ภายใต้หลักการที่ว่า"สสารทุกชนิดบนโลกจะมีสนามแม่เหล็กเป็นตัวเชื่อมต่อ ซึ่งเครื่องจีที 200 จะใช้หลักการค้นหาสนามแม่เหล็กซึ่งจะสามารถตรวจจับสารวัตถุระเบิดได้ทั้งใน อากาศ บนดิน ใต้ ดิน หรือกระทั่งใต้น้ำ" ลักษณะของเครื่องจีที200 มีลักษณะเป็น แท่งยาว มีด้ามจับคล้ายๆ "ไมค์ลอย" บริเวณด้านล่างของเครื่องจะมีกล่องใส่การ์ด ซึ่งการ์ดหรือ "ชิพ" ตัวนี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบสสารประเภทต่างๆ ที่ต้องการค้นหา หาก ต้องการตรวจหายาเสพติดก็จะใช้การ์ดหรือชิพแบบหนึ่งหรือหากต้องการตรวจหากระ สุนหรืออาวุธปืน และอาวุธสงครามก็จะใช้การ์ดหรือชีพอีกแบบหนึ่ง แต่ข้อจำกัดประการหนึ่งของการ์ดที่ใช้ตรวจสอบอาวุธก็คือหากอาวุธไม่ผ่านการ ยิงก็จะตรวจไม่พบ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยตรวจหาจาก "เขม่าดินปืน" หรือ"สารวัตถุระเบิด" ที่ติดมากับอาวุธนั้นๆ
การ์ดที่บรรจุใน เครื่องจีที200 จะมีอยู่ทั้งหมด 18 การ์ด โดยจะมีการ์ดที่สามารถตรวจหาวัตถุต้องสงสัยต่างๆ ได้ทั้ง วัตถุระเบิด ยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม และ กระสุน ตัว การ์ดหรือชิพจะมีราคาสูงหลายหมื่นบาทต่อชิ้น ซึ่งเมื่อรวมราคาตัวเครื่องจี ที 200 กับการ์ดทั้งหมด จำนวน 18 การ์ดจะมีสนนราคาประมาณ 1.25 ล้านบาทต่อ เครื่อง ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดคนเดิมบอกว่า เครื่องจีที 200 แบบมาตรฐานจะบรรจุ 13 การ์ด แต่กองทัพบกระบุว่า ต้องการ ถึง 18 การ์ด ทางบริษัทผู้ผลิตจึงผลิตให้ตามที่ร้องขอ นอกจากการ์ดหรือชิพแล้วอุปกรณ์ที่มีความสำคัญยิ่งในการค้นหาวัตถุระเบิด คือ "เสาอากาศ" ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้านยาวๆ ชี้ไปทางด้านหน้า เมื่อตรวจพบสารวัตถุระเบิด...เสาอากาศก็จะทำการ"ชี้เป้า" ไปยังทิศทางที่ตรวจพบทันที ขณะ ที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดนใต้รับประกันว่าจี ที 200 เป็นเครื่องตรวจหาสารวัตถุระเบิดที่เหมาะสมที่สุดที่นำมาใช้ใน พื้นที่ และหลายประเทศก็นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
คุณ ประโยชน์ของจีที200 คือเวลาที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมหรือตรวจค้นแหล่งต้อง สงสัย จีที 200 จะสามารถบีบพื้นที่กว้างๆให้เหลือ "พื้นที่ต้องสงสัย" ว่าจะ มีวัตถุระเบิดในวงจำกัดได้ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ประหยัดเวลาและมีความ ปลอดภัยมากขึ้น
ปัจจุบันมีเครื่องจีที200 กระจายอยู่ในพื้นที่ประมาณ 48 เครื่อง และจะมีการ "จัดซื้อเพิ่มเติม" อีกตามนโยบายของ พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเห็นว่าทุกหน่วยควรจะมีไว้ใช้งาน (At present, use of the GT 200 is spread out, with about 48 devices, and additional orders coming following commander-in-chief Gen. Anupong Paochinda’s policy, in which he believes every unit should have them for use.)
อย่าง ไรก็ตามแม้เครื่องจีที 200 จะมีประสิทธิภาพสูงล้ำ แต่หากเจ้าหน้าที่ผู้ ปฏิบัติงานไม่ได้ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีก็จะไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ และร้ายกว่านั้นอาจทำให้เกิดความ "ผิดพลาด" จนส่งผลกระทบต่อ "ผู้บริสุทธิ์" ได้
โดยเจ้าหน้าที่ของไทยที่ผ่านการฝึกอบรมกับผู้ เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษมีเพียง"กรมสรรพาวุธทหารบก" เท่านั้น แต่ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพียงพอ แต่ อยากมีเครื่องจีที 200 ไว้ใช้งาน จึงก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา
จี ที200 จึงเป็นอุปกรณ์ช่วยเสริมให้หน่วยงานทหารทุกหน่วย เพราะในการปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่มีโอกาสตรวจเจอสูงมาก หากมีการซุกซ่อนวัตถุระเบิดเอาไว้
แต่ การใช้จะต้องจัดกำลังพลมาจัดฝึกอบรมให้ถึงขั้นใช้งานได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อน เพราะถ้าไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมก็จะใช้ไม่ได้ผลได้เท่าไร และหากไม่ชำนาญ จริงๆ แล้วเกิดทำผิดพลาด เช่น ไปจับคนผิดขึ้นมาก็จะเป็นทำบาปเสีย มากกว่า หรือถ้าเป็นกรณีที่มีระเบิดอยู่จริง แต่ไม่รู้จักวิธีการใช้ที่ถูก ก็จะตรวจไม่พบ และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตขึ้นมาได้
แม้จะ ยังประสบปัญหาเรื่องการฝึกอบรมที่ยังไม่ทั่วถึงอยู่แต่ก็เชื่อมั่น ว่า ปัจจุบันทางทหารได้มีการซักซ้อมในการเก็บกู้วัตถุระเบิดมากขึ้น โดยจะมี การฝึกใช้เครื่องจีที 200 ร่วมกับสุนัขตรวจวัตถุระเบิดเพื่อให้การปฏิบัติ งานของทุกฝ่ายเป็นไปในทางเดียวกันมากกว่าเดิม
February 02, 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment